นโยบายสำคัญของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก

455 8 มิ.ย. 2566

 นโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ

 

1. ค่าธรรมเนียมการบริหารโครงการ (Agency Fee)

GEF ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคำนวณค่าบริหารโครงการ (Agency fee) ดังนี้

 

วงเงิน/โครงการ

Agency fee

(ร้อยละของมูลค่าโครงการ)

 

เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

9

 

ไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

9.5

 

โครงการขนาดเล็ก SGP

 

4

 

โครงการที่บริหารจัดการโดย GEF Agency รายใหม่ อาทิ WWF และ IUCN

 

9

 

โครงการลักษณะ Programmatic Approach

    -  กรณี GEF Agencies เดิม

-  กรณี GEF Agencies รายใหม่ อาทิ WWF  และ IUCN

 

 

8

9

 

2. งบประมาณสมทบในการดำเนินโครงการ (Co-financing)

           GEF ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนองบประมาณสมทบ (Co-financing) โดยได้กำหนดอัตราส่วนในระดับโลกไว้ คือ 1:7

(GEF Project Financing : Co-financing) และได้กำหนดให้โครงการของแต่ละประเทศมีอัตราส่วนอย่างน้อย 1:5 โดยคิดคำนวณอัตราส่วน

จาก (งบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนจาก GEF (GEF Project Financing) + งบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาโครงการ

(Project Preparation Grant: PPG) โดยไม่รวมค่าบริหารโครงการ (Agency fee)) 1 ส่วน ต่อ วงเงินของงบประมาณสมทบอย่างน้อย 5 ส่วน ทั้งนี้ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาโครงการ (PPG) โดย GEF กำหนดหลักเกณฑ์ ดังนี้

 

งเงินงบประมาณโครงการ

วงเงิน PPG (ไม่รวมค่า Agency fee)

 

ไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ไม่เกิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

2 - 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ไม่เกิน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

3 - 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ไม่เกิน 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

6 - 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ไม่เกิน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ไม่เกิน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

3. การยกเลิกโครงการ (Project Cancellation)

        GEF ได้กำหนดนโยบายการยกเลิกการสนับสนุนโครงการในขั้นตอนการจัดทำเอกสารโครงการฉบับสมบูรณ์

(Full Project Document: FPD) ดังนี้

        1. สำหรับโครงการขนาดกลาง (Medium Sized Project: MSP) ภายหลังจากเอกสารข้อเสนอโครงการ (Project Identification Form: PIF) ได้รับการอนุมัติจาก GEF CEO แล้ว หน่วยงานเจ้าของโครงการร่วมกับ GEF Agency จะต้องร่วมกันจัดเอกสารโครงการฉบับสมบูรณ์
(Full Project Document: FPD) และจัดส่งให้ GEF Secretariat ภายใน 8 เดือน เพื่อให้ GEF CEO พิจารณาอนุมัติภายใน 12 เดือน ทั้งนี้
ในกรณีเหตุสุดวิสัยหรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ สงคราม น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือ การเกิดโรคระบาด ซึ่งกระทบต่อการจัดทำเอกสารโครงการ GEF OFP อาจพิจารณามีหนังสือถึง GEF CEO  เพื่อขอยกเว้นการถูกยกเลิกโครงการ โดยจะต้องดำเนินการในช่วงก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนด

        2. สำหรับโครงการขนาดใหญ่ (Full Sized Project: FSP) ภายหลังจากเอกสารข้อเสนอโครงการ (Project Identification Form: PIF)
ได้รับการอนุมัติจาก GEF Council แล้ว หน่วยงานเจ้าของโครงการร่วมกับ GEF Agency จะต้องร่วมกันจัดเอกสารโครงการฉบับสมบูรณ์
(Full Project Document: FPD) และจัดส่งให้ GEF Secretariat ภายใน 12 เดือน เพื่อให้ GEF CEO พิจารณาอนุมัติภายใน 18 เดือน ทั้งนี้
ในกรณีเหตุสุดวิสัยหรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ สงคราม น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือการเกิดโรคระบาด ซึ่งกระทบต่อการจัดทำเอกสารโครงการ GEF OFP อาจพิจารณามีหนังสือถึง GEF CEO เพื่อขอยกเว้นการถูกยกเลิกโครงการ โดยจะต้องดำเนินการในช่วงก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนด