อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ (Convention Concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage: WHC) จัดตั้งขึ้นเพื่อ การคุ้มครองและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ทรงคุณค่าโดดเด่นของโลก ทั้งแหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและแหล่งธรรมชาติ เพื่อเป็นมรดกตกทอดแก่คนรุ่นหลังอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2518 โดยประเทศไทยมิได้ลงนามในพิธีสารฯ แต่เข้าภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2530 และมีผลบังคับใช้กับประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ปัจจุบัน มีสมาชิกเป็นภาคีอนุสัญญา จำนวน 195 ประเทศ (ข้อมูล ณ กรกฎาคม 2566)พันธกรณีที่ต้องดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศภาคีในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสมทั้งด้านนโยบายและวางแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และจัดการมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเพื่อสงวนรักษาคุ้มครองและส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อมวลมนุษยชาติให้คงอยู่ต่อไป
คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกฯ ของไทยประเทศไทยมีคณะกรรมการที่กำกับดูแลและเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกฯ ได้แก่
ความก้าวหน้าการดำเนินการของประเทศไทย1. ประกาศใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นกลไกการกำหนดนโยบายและดำเนินงานให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว รวมทั้งการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองและการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติของประเทศอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพให้คงไว้ซึ่งคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล2. จัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อกำกับและเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครอง ป้องกัน และอนุรักษ์มรดกโลกที่สอดคล้องตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ รวมทั้งกำหนดท่าทีของไทยต่อการดำเนินงานตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ3. กำหนดแผนงาน มาตรการและกลไกในการคุ้มครองป้องกัน และอนุรักษ์ แหล่งมรดกโลกของราชอาณาจักร4. สนับสนุนและส่งเสริมการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ในการนำเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก5. จัดทำรายงานและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานในแหล่งมรดกโลก ตามข้อมติคณะกรรมการมรดกโลก หรือคำร้องขอของศูนย์มรดกโลกรวมทั้งจัดทำรายงานเพื่อรายงานสถานะและการดำเนินงานในพื้นที่แหล่งมรดกโลกของราชอาณาจักรไทยต่อศูนย์มรดกโลกอาทิ การจัดทำรายงานสถานภาพการอนุรักษ์กลุ่มดงพญาเย็น-เขาใหญ่ การจัดทำเอกสารบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative list) แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กรระหว่างประเทศ ในการบริหารจัดการแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ และพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอเป็นมรดกโลก รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติและพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอเป็นมรดกโลกของประเทศไทย ได้แก่ พื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ และพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน6. ปัจุจบันประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ รวมทั้งสิ้น 6 แหล่ง ได้แก่
7. ศูนย์มรดกโลกได้บรรจุพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน (The Andaman Sea Nature Reserves of Thailand) ไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) แล้วและได้จัดส่งร่างเอกสารนำเสนอ (Nomination Dossier) พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน (รอบแรก) ให้ศูนย์มรดกโลกพิจารณา โดยอยู่ระหว่างดำเนินการปรับเเก้ไขเอกสารฯ ตามผลการตรวจประเมินรอบแรก เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการฯ เเละคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป |
||||||||