วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2566) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(รมว.ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ให้การต้อนรับ มาดามบุนคำ วอละจิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แห่ง สปป. ลาว และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทส. และร่วมหารือถึงความร่วมมือ
การดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว. ณ ห้องประชุม ชั้น 20 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในการหารือ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และได้ให้นโยบายไว้
ในคราวเยือนประเทศลาวครั้งล่าสุด ที่จะดำเนินงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของสองประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหามลพิษ
จากหมอกควันข้ามแดน รวมถึงการเร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน (Joint Plan of Action) ของ 3 ประเทศ
คือ สปป.ลาว เมียนมา และไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (Clear Sky Strategy) โดยประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ
ในการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมติดตามตรวจวัดจุดความร้อน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ในการบริหารจัดการเกษตรในพื้นที่สูง
การจัดทำแผนที่เสี่ยงไฟ การศึกษาเรียนรู้เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า
นอกจากนี้ ได้หารือการดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่ง สปป.ลาว ที่ร่วมกันจัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 ซึ่งที่ผ่านมา มีกิจกรรมสำคัญ อาทิ โครงการจัดสร้าง
สวนรุกขชาติไทย – ลาว แผนปฏิบัติการด้านการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม แผนปฏิบัติการด้านนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แผนการดำเนินงานความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ สปป.ลาว – ไทย และอยู่ระหว่างร่วมกันจัดทำบันทึกความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า
ที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการสนับสนุนทางวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงนโยบายระหว่างไทย - สปป.ลาว ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อจะเป็นประโยชน์
ในการกำหนดนโยบายดำเนินงานและสนับสนุน สปป.ลาว เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
พร้อมกันนี้ ยังได้แสดงความขอบคุณที่ สปป. ลาว ร่วมดำเนินงานเพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
มาเป็นอย่างดี
ที่มา : https://www.mnre.go.th/th/news/detail/170339