วันนี้ (15 ตุลาคม 2564) เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือผ่านระบบการประชุมทางไกล
กับ นางฮัน จ็อง-แอ (Han Jeoung-ae) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐเกาหลี โดยประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีมีความร่วมมือ
ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน และมีการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งในการหารือครั้งนี้ทั้งสองฝ่าย
ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
(Carbon neutrality) เทคโนโลยีการจัดการอุทกภัย การจัดการขยะพลาสติกทั้งบนบกและในทะเล และเศรษฐกิจหมุนเวียน โดย รมว. ทส. ได้กล่าวถึงความตั้งใจ
ของไทยในการผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะมีพื้นที่เพียง 1% ของพื้นที่โลก แต่จากการประเมินของ IUCN พบว่า ประเทศไทย
มีความหลากหลายทางชีวภาพถึง 10% ของโลก ซึ่งไทยจะใช้จุดเด่นและโอกาสนี้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นอกจากนั้นแล้ว ประเทศไทยมีการดำเนินงานด้านการจัดการขยะพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม มีเทคโนโลยี upcycle ที่หลากหลาย และตั้งเป้าหมายที่จะ recycle
พลาสติกโดยนำกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว เชื่อมโยงไปถึงการจัดการขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งความพยายามที่ผ่านมา
ทำให้ประเทศไทยถูกเลื่อนลำดับของประเทศที่มีปัญหาขยะพลาสติกในทะเลจากลำดับที่ 6 เป็น ลำดับที่ 10 ของโลก ทั้งนี้ ประเด็นของการบริหารจัดการ
ทรัพยากรน้ำ เป็นประเด็นที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งปัญหามีทั้งปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง และปัจจัยที่สำคัญ
ได้แก่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไทยมีนโยบายที่ชัดเจนในการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในเรื่องของการตั้งเป้าหมาย
ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศไทยไว้ภายใน ปี ค.ศ. 2065 การจัดทำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การจัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน การตั้งเป้าหมายการใช้รถ EV ซึ่งปัจจุบันภาคเอกชนของไทยมีความ
active เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของไทย 55% ตามที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยภายใต้
พื้นที่สีเขียว 55% นั้น จะมีการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ 40% และพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ 15% ทั้งนี้ สาธารณรัฐเกาหลี ยินดีที่จะร่วมมือกับไทย ทั้งในเรื่องของการแลกเปลี่ยน
องค์ความรู้และเทคโนโลยี เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำ การดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการจัดการขยะพลาสติก
โดยเฉพาะ Circular Economy โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่า เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายขึ้น จะได้มีการหารือและดำเนินความร่วมมือ
ระหว่างกันอย่างใกล้ชิดต่อไป