ความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่าง ไทย - จีน
1. ความร่วมมือทางด้านทะเล (Marine Cooperation) ระหว่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และทบวงกิจการทางมหาสมุทรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (SOA)
โดยร่วมกันดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางด้านทะเล ผ่านการดำเนินกิจกรรมและโครงการที่ครอบคลุม อาทิ การแลกเปลี่ยนและร่วมมือทางนโยบาย
ด้านทะเล การจัดการบริเวณชายฝั่งและหมู่เกาะในทะเล การคุ้มครองระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมทางทะเล การสํารวจและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล การบรรเทาและ
ป้องกันภัยพิบัติทางทะเล การสํารวจระยะไกลและดาวเทียมสํารวจมหาสมุทร เทคโนโลยีการติดตามและเฝ้าระวังมหาสมุทรและมาตรฐานของเครื่องมือที่สร้างขึ้น
จากความรู้เทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศทางทะเล เทคโนโลยีด้านชีวพันธุกรรม และความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล รวมถึงโครงการ
วิจัยร่วมไทย-จีน อาทิ โครงการ Coastal Vulnerability Research (CVR) และโครงการ Ocean Forecasting and Marine Disaster Mitigation System of
Southeast Asia Seas เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 คณะผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรธรณี
และสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย - จีน ครั้งที่ 7 (Joint Committee: JCM-7)
ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ด้านทะเล โอกาสนี้ ได้ร่วมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมไทย - จีน
ด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน
2. ความร่วมมือทางวิชาการด้านป่าชายเลน (Mangrove Conservation) ระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กับศูนย์ความร่วมมือ
ด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียน-จีน (China and the China-ASEAN Environmental Cooperation Center) และมูลนิธิอนุรักษ์ป่าชายเลน
และพื้นที่ชุ่มน้ำเซินเจิ้น (the Shenzhen Mangrove Wetlands Conservation Foundation)
โดยมีการดำเนินความร่วมมือทางวิชาการด้านอนุรักษ์ป่าชายเลน โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นกรอบความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงานในการทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยร่วมกันในด้านป่าชายเลน ตลอดจนสนับสนุนแลกเปลี่ยน การเรียนรู้แบบปฏิบัติที่ดีในด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลน
3. ความร่วมมือทางวิชาการด้านธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีไทย-จีน ระหว่างกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กับกรมสำรวจธรณีวิทยาสาธารณรัฐ
ประชาชนจีน (China Geological Survey: CGS)
โดยการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนางานทางวิชาการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ ผลการวิจัย และพัฒนาศักยภาพบุคลากรของทั้งสองประเทศ ในด้านต่าง ๆ
ได้แก่ การวิจัยและเทียบสัมพันธ์ธรณีวิทยาพื้นฐาน การอนุรักษ์ธรณี อุทยานธรณี และการท่องเที่ยวเชิงธรณี เทคโนโลยีการสำรวจทรัพยากรแร่ธรณีวิทยา
และธรณีพิบัติภัยและบรรพชีวินวิทยา ผ่านกิจกรรมความร่วมมือ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิค การศึกษาวิจัย และแลกเปลี่ยน
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง การประชุมทางวิชาการ และประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสำรวจร่วมของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการสนับสนุนให้ทุกฝึกอบรมและทุนการศึกษา
ในระดับปริญญาโท - เอก
4. ความร่วมมือในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านพี่เมืองน้อง (Museum Management and the sister museum) ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์
ไดโนเสาร์ภูเวียง ระหว่าง กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กับพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จื้อกง (Zigong Dinosaur Museum)
โดยมีการดำเนินการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ เพื่อการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มเครือข่ายความร่วมมือระหว่างอุทยานธรณี
ของไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านกิจกรรมและความร่วมมือ ได้แก่
1) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านวิชาการและประสบการณ์การในการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์
2) การฝึกอบรม การจัดแสดงนิทรรศการ เทคนิคการสำรวจขุดค้นและการเตรียมตัวอย่างไดโนเสาร์ และแลกเปลี่ยนตัวอย่างหินและซากดึกดำบรรพ์ร่วมกัน
5. ความร่วมมือในสาขาทรัพยากรน้ำ ระหว่างกรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กระทรวง
ทรัพยากรน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมีการดำเนินความร่วมมือ 7 ด้าน ได้แก่
1) การพัฒนายุทธศาสตร์ นโยบาย และการวางแผนทรัพยากรน้ำ
2) การบริหารจัดการ การอนุรักษ์ และการป้องกันทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
3) การส่งเสริมการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้เพื่อการบรรเทาภัยพิบัติจากการเกิดน้ำท่วมและน้ำแล้ง
4) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางอุทกวิทยา
5) การเสริมสร้างขีดความสามารถแก่ผู้จัดการและนักวิชาการด้านทรัพยากรน้ำ
6) การประสานงานและความร่วมมือในการจัดกิจกรรมด้านน้ำระหว่างประเทศ
7) การฝึกอบรมทางวิชาการหรือการใช้องค์ความรู้ในสาขาทรัพยากรน้ำที่มีความสนใจร่วมกัน
6. ความร่วมมือด้านอุทกธรณีวิทยาและธรณีพิบัติ ระหว่างกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยา กระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมีการดำเนินกิจกรรมด้านธรณีวิทยาภายใต้ความเท่าเทียมและผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน ผ่านความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ทางด้านวิชาการ
และผู้เชี่ยวชาญ เช่น การสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล ระบบติดตามสถานการณ์น้ำบาดาล การบริหารจัดการฐานข้อมูลน้ำบาดาล อุทกธรณีวิทยาและ
ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม รวมถึงปฐพีสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และหัวข้ออื่น ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน เป็นต้น
7. ข้อริเริ่มปักกิ่งเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสายแถบและเส้นทาง
ปี พ.ศ. 2566 ในวาระครบรอบ 10 ปี ของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) สาธารณรัฐประชาชนจีนจึงจัดการประชุมเวทีข้อริเริ่ม
สายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 (3rd Belt and Road Forum for International Cooperation) ระหว่างวันที่ 17 - 18 ตุลาคม 2566 ณ กรุงปักกิ่ง โดยการประชุม
เวทีระดับสูงเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High-Level Forum on Green Development) ถูกจัดคู่ขนานในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 และจะมีการประกาศ
ข้อริเริ่มฯ โดย H.E. Huang Runqiu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Ecology and Environment of
the People’s Republic of China) ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ได้รับเชิญให้ร่วมสนับสนุน (co-sponsor) ข้อริเริ่มฯ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ได้เข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 (3rd Belt and Road Forum for International Cooperation) และการประชุมเวทีระดับสูงเพื่อการ
พัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High-Level Forum on Green Development) โดยประเทศไทยได้มีหนังสือแจ้งร่วมสนับสนุน (co-sponsor) ข้อริเริ่มปักกิ่งเพื่อ
การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสายแถบและเส้นทาง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566
โดยข้อริเริ่มมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) เพื่อระลึกถึงคำมั่นระดับโลกทั้งในเรื่องวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 การดำเนินงานตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ (UNFCCC) และความตกลงปารีส ตลอดจนอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและกรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
(GBF) รวมถึงให้ความสำคัญกับประเทศกำลังพัฒนาที่ควรได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอทั้งกองทุนและการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย
ระดับโลก
2) เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ได้แก่ การหารืออย่างครอบคลุมและดำเนินงานเพื่อส่งเสริมนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาสีเขียวและ
การปล่อยคาร์บอนต่ำ การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การส่งเสริมการดำเนินงานของกรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพของโลก โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถ
ผ่านการพัฒนากิจกรรมความร่วมมือในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านการปกป้องทางนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม การควบคุมมลพิษ
การแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ นโยบายและเทคโนโลยีการปกป้องสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเชื่อมโยงโครงสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างที่มี
ภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล การส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม การพัฒนาพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ การตั้งเป้าหมายการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมความร่วมมือด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ แผนงานและมาตรฐานภาคการขนส่ง การส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงินที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม การใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแลกเปลี่ยนการลงทุนด้านภูมิอากาศ สนับสนุนการจัดตั้งหุ้นส่วนการ
ลงทุนและการเงินเพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในเวทีประชุมที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การร่วมสนับสนุนข้อริเริ่มปักกิ่งฯ จะทำให้ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และคาร์บอนต่ำ ผ่านกิจกรรมบนพื้นฐานความสมัครใจ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถ ตลอดจนการได้รับองค์ความรู้
ด้านเทคโนโลยีการปกป้องสิ่งแวดล้อม การลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงประสบการณ์ในการดำเนินงาน
ตามกรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพของโลก การพัฒนาพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการใช้เครื่องมือ
ทางการเงินเพื่อการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศไทยเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050
และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065